เช็คราคา circuresule

รายละเอียดสินค้า
1. สมุนไพร CIRCURE จัดเป็นยาหรืออาหารเสริม ?

สมุนไพร CIRCURE ขึ้นทะเบียนเป็นอาหารเสริมแต่ออกฤทธิ์ทางการรักษาเหมือนยา ทั้งนี้เพราะมีส่วนประกอบที่สำคัญ ในสมุนไพรในแต่ละตัว ซึ่งให้ผลทางการรักษาดังกล่าว (คุณสมบัติของสมุนไพรแต่ละตัวสามารถดูจากเอกสารแผ่นผับ)





Top

2. สมุนไพรตัวใดบ้างใน CIRCURE ที่ช่วยลด cholesterol & triglyceride ( อันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ ล้มเหลว ) ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือด ?

ทั้งตัว Crataegus และ Garlic จะออกฤทธิ์เสริมกันและกันในการช่วยลด ทั้ง cholesterol และ triglyceride เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วสมุนไพรทั้ง 2 ยังช่วยทั้งขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ทำให้ลดความดันโลหิต เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วยังช่วยรักษาคนที่เป็นโรคเบาหวานอันเกิดจากภาวะที่เลือดไปเลี้ยงตับอ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ insulin ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่





Top

3. สมุนไพรตัวใดใน CIRCURE ที่ช่วยคลายเครียด ลดความวิตกกังวล ทำให้นอนหลับสบายและตื่นขึ้นมาไม่มี อาการปวดศีรษะ ?

สมุนไพร Melissa ออกฤทธิ์ดังกล่าว นอกจากนี้แล้วยังมีฤทธิ์คลายทั้งกล้ามเนื้อเรียบ และ กล้ามเนื้อลาย ทำให้รักษาอาการทั้ง การปวดประจำเดือน และ ปวดศีรษะ “migraine” ลดอาการท้องผูก ท้องเฟ้อโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งที่ ลำไส้ใหญ่ได้ ซึ่งมักจะเกิดจากสาเหตุของภาวะท้องผูกได้เป็นอย่างดี





Top

4. สมุนไพรตัวใดใน CIRCURE ที่ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม เพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ทำให้รักษาทั้ง อาการภูมิแพ้ และ ไซนัสอักเสบ ?

สมุนไพร Ginkgo หรือ แป๊ะก๊วย ที่ออกฤทธิ์ดังกล่าว นอกจากนี้แล้วยังเป็นตัวช่วยลดภาวะการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง และ ยังมีผลช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ดีอีกด้วย





Top

5. ขนาดและวิธีการรับประทาน CIRCURE ที่เหมาะสม เป็นอย่างไร ?

รับประทานวันละครั้ง 1 แคปซูล ก่อนนอน เป็นการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ปรับการไหลเวียนของโลหิตที่ผิดปกติให้ กลับสู่ภาวะสมดุล ขนาดสูงสุดสามารถให้ได้วันละไม่เกิน 6 แคปซูล แบ่งให้ครั้งละ 2 แคปซูล 3 เวลา แต่ต้องอยู่ในความดูแล ของแพทย์





Top

6. สำหรับคนไข้ที่มีอาการ “ ปวดประจำเดือน ” ขนาดและวิธีรับประทาน CIRCURE เป็นอย่างไร ?

รับประทานวันละครั้ง 1 แคปซูล ก่อนนอน 7-14 วันก่อนมีรอบเดือน ทั้งนี้เป็นการออกฤทธิ์ของสมุนไพร Melissa คนไข้ไม่ จำเป็นต้องทานยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น paracetamol หรือ ponstan ร่วมด้วยอีก ทั้งนี้เพราะเฉพาะ CIRCURE ก็สามารถรักษาอาการได้ดีแล้ว เป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งที่ดีกว่าการทานยาแก้ปวด หรือ ยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นเพียงการรักษาเท่านั้น แต่สำหรับ CIRCURE แล้ว เป็นทั้งการรักษาและเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายด้วยเท่ากับเป็น การป้องกันไม่ให้เกิดภาวะโรคอื่นๆได้เป็นอย่างดี นับว่าคุ้มค่ากว่า





Top

7. สำหรับคนไข้ที่มีอาการทั้ง “ไขมันในเส้นเลือด”, “โรคหัวใจ”และ“โรคความดันโลหิตสูง” นั้น ได้รับยาจาก แพทย์แล้ว ถ้าหากต้องการรับประทาน CIRCURE ร่วมด้วยจำเป็นจะต้องหยุดยาที่แพทย์สั่งให้หรือไม่ เพราะ เหตุใด ?

สามารถรับประทาน CIRCURE ร่วมด้วย โดยรับประทานวันละครั้ง 1 แคปซูล ก่อนนอน ทั้งนี้เพราะ Crataegus และ Garlic ออกฤทธิ์รักษาอาการดังกล่าวอย่างเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้แล้ว CIRCURE ยังเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น เท่ากับทั้งออกฤทธิ์ด้วยตัวเองแล้วยังช่วยนำยาที่แพทย์สั่งให้ดังกล่าวไปยังอวัยวะที่ต้องการให้ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ยังช่วย คลายเครียด ลดความวิตกกังวล ทำให้คนไข้หลับสบาย ตื่นขึ้นมาก็สดชื่นไม่ปวดศีรษะ อาการของคนไข้ก็จะดีขึ้นกว่าปกติ เมื่อครบกำหนดเวลาที่แพทย์นัดตรวจทั้งเลือดและปัสสาวะ แพทย์จะทำการปรับลดขนาดของยาต่างๆ ลง เนื่องจากคนไข้จะมี อาการดีขึ้น นั่นเป็นความคุ้มค่ายิ่งสำหรับการรับประทาน CIRCURE ร่วมด้วย





Top

8. ทำไมจึงห้ามทาน CIRCURE ร่วมกับ aspirin หรือ กับคนไข้ที่มีประวัติเลือดหยุดยาก ?

ทั้งนี้เพราะ CIRCURE มีทั้ง Crataegus และ Ginkgo ที่มีผลในการยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งมีฤทธิ์เช่นเดียวกับ aspirin ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันสำหรับคนไข้ในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุ หรือ สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเลือดออก อาจจะทำให้ การสมานแผลเกิดขึ้นช้ากว่าปกติ จะทำให้เลือดออกนานขึ้นอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ โดยเฉพาะคนไข้ที่มีประวัติเลือดหยุดยาก อยู่แล้ว อาการจะอันตราย ให้พึงระวัง สำหรับคนไข้ที่มีอาการโรคหัวใจ บางครั้งแพทย์อาจจะให้ยา baby aspirin ( 60 mg.) ร่วมด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสอบถามให้แน่ชัดเสียก่อน โดยคนไข้อาจจะต้องเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง CIRCURE หรือ aspirin เพราะออกฤทธิ์คล้ายคลึงกัน แต่ CIRCURE จะให้ผลดีกว่าในเรื่องของการ เพิ่มการไหลเวียนของ โลหิต เพิ่มภูมิต้านทาน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งล้วนแต่เป็นผลดียิ่งกับร่างกาย ในขณะที่ aspirin ไม่ได้ให้ผลดังกล่าว





Top

9. ในกรณีที่รับประทานอาการเสริมอื่นๆเช่น วิตามิน สารควบคุมน้ำหนักที่สกัดจากเมล็ดดอกทานตะวัน หรือ กลุ่มที่ช่วยให้บำรุงผิวพรรณจำพวกสารสกัดจากน้ำมันปลาทะเลจะสามารถทาน CIRCURE ร่วมด้วยได้หรือไม่ ? จะเกิดสารตกค้างหรือผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง

การรับประทาน CIRCURE ร่วมด้วย นอกจากจะปลอดภัย เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ จึงปราศจากสารตกค้าง แต่อย่างใด ในขนาดรับประทาน วันละครั้ง 1 แคปซูล ก่อนนอน ยังทำให้อาหารเสริมดังกล่าวที่รับประทานอยู่แล้ว ถูกนำไปยัง อวัยวะต่างๆที่ต้องการให้ออกฤทธิ์ดีขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพของอาหารเสริม ดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้เพราะ CIRCURE ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น นอกจากนี้แล้วยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและลดไขมันในเลือด ลดความดัน คลายเครียด ลดความวิตกกังวลทำให้หลับสนิท หลับสบาย ตื่นขึ้นมาก็สดชื่นแจ่มใสไม่ปวดศีรษะแต่อย่างใด





Top

10. ทำไมจึงแนะนำให้คนไข้ที่มีอาการชาปลายมือปลายเท้า รับประทาน CIRCURE และทานนานเท่าไหร่จึงจะ เห็นผล ?

การที่คนไข้ที่มีอาการชาปลายมือปลายเท้านั้น เนื่องจากการไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงบริเวณปลายประสาทดังกล่าวไม่ เพียงพอ ทั้งนี้เพราะเส้นเลือดบริเวณดังกล่าว เป็นเส้นเลือดฝอย ซึ่งเล็กมากขนาดที่ตาเปล่าอาจจะมองไม่เห็น ยิ่งหากคนไข้มี อาการไขมันอุดดันในเส้นเลือดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดอาการดังกล่าวรุนแรงมากขึ้น หากรักษาไม่ทันท่วงทีและถูกวิธี อาจเป็น สาเหตุทั้งอัมพฤกษ์และอัมพาตได้ การรับประทาน CIRCURE วันละครั้ง 1 แคปซูล ก่อนนอน หรือ ในกรณีที่คนไข้มีอาการมาก และเป็นมานาน อาจจะต้องให้ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า และ ก่อนนอน ทั้งนี้เพราะ CIRCURE จะช่วยลดไขมันที่อุดตันใน เส้นเลือด ขยายหลอดเลือด ปรับการไหลเวียนของเลือดให้สู่ภาวะสมดุล นอกจากนี้แล้วยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย จะทำให้เส้นประสาทบริเวณปลายมือปลายเท้ามีเลือดซึ่งจะมีอาหารในเลือดนั้นไปเลี้ยงปลายประสาทบริเวณนั้นมากขึ้น จะทำ ให้อาการของคนไข้ดีขึ้นจนเป็นที่พอใจ การรับประทานในระยะยาว หากอาการดีขึ้นมากแล้ว สามารถปรับลดขนาดจากวันละ 2 แคปซูลดังกล่าว ให้เหลือเพียงวันละครั้ง 1 แคปซูล ก่อนนอน ก็เพียงพอ สำหรับระยะเวลานานเท่าไหร่ภายหลังจากรับประทาน CIRCURE แล้วจึงจะเห็นผล ทั้งนี้ก็เช่นเดียวกับยาทั่วไป ที่จะแตกต่างกันไปในแต่ละคนไข้ ทั้งนี้ขึ้นกับระยะเวลาความเรื้อรัง ของอาการ อีกทั้งการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง จะช่วยให้คนไข้มีอาการดีขึ้นกว่ารับประทานยาทั่วไป หรือ CIRCURE แต่เพียง อย่างเดียว





Top

11. ในกรณีเคยรับประทาน กระเทียม หรือ แป๊ะก๊วย ในรูปของเม็ดอาหารเสริม อยู่เป็นประจำสามารถทาน CIRCURE ร่วมด้วยได้หรือไม่ ?

หากรับประทาน CIRCURE วันละครั้ง 1 แคปซูล ก่อนนอนเป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องทาน กระเทียม หรือ แป๊ะก๊วย ในรูปของ เม็ดอาหารเสริม อีก ทั้งนี้เนื่องจากในสมุนไพร CIRCURE มีทั้งส่วนประกอบของ กระเทียม และ แป๊ะก๊วย อยู่แล้ว นับเป็นการ สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมุนไพร CIRCURE ยังจะให้ผลดีกับร่างกายมากกว่า ทั้งกระเทียม หรือ แป๊ะก๊วย ที่อยู่เดี่ยวๆ เช่น ปรับการไหลเวียนของโลหิตที่ผิดปกติให้กลับคืนสู่ภาวะสมดุล คลายเครียด ลดความวิตกกังวล ทำให้นอนหลับสบาย ตื่นขึ้นมาไม่ปวดศีรษะ รักษาการปวดประจำเดือน และ ไมเกรน ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ทั้ง กระเทียม หรือ แป๊ะก๊วย เมื่ออยู่เดี่ยวๆ ไม่ได้ให้คุณค่าแก่ร่างกายดังกล่าว อีกทั้งเมื่อเทียบราคา / วันแล้ว จะเห็นว่าการทาน CIRCURE ยังประหยัดกว่ามาก ทั้งยังให้คุณค่ามากกว่า ผลข้างเคียงก็น้อยกว่า นอกจากนี้แล้ว ยังอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึง ประสงค์ได้ เนื่องจากต่างก็มีส่วนประกอบเหมือนกัน ทำให้เกิดภาวะร่างกายได้รับตัวยาจากสมุนไพรดังกล่าวมากเกินความ จำเป็น





Top

12. มีข้อห้ามใช้ CIRCURE ในกรณีใดบ้าง ?

ข้อห้ามใช้มี ดังนี้

สตรีมีครรภ์ และ ระหว่างให้นมบุตร ( เป็นข้อกำหนดของยาและอาหารเสริม ของ อ.ย. )
ผู้ที่มีประวัติแพ้แป๊ะก๊วยมาก่อน
ในผู้ป่วยที่รับประทาน แอสไพริน ควรอยู่ใน ความดูแลของแพทย์
ในบุคคลที่มีประวัติเลือดหยุดยาก






Top

13. สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหอบหืด หรือ ไซนัสอักเสบ ที่ใช้ยาพ่นจมูก บรรเทาอาการอยู่ทราบว่า CIRCURE นอกจากรักษาอาการดังกล่าวได้ จะสามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ ?

สมควรทาน CIRCURE ร่วมด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยรักษาอาการหอบหืด และ ไซนัสอักเสบเป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ซึ่งจะเท่ากับป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะอ่อนแอ นอกจากนี้แล้วยังช่วยปรับการไหล เวียนของโลหิตให้สู่ภาวะสมดุล คนไข้จะหลับสบายคลายเครียด ลดความวิตกกังวล ทำให้ภาวะของโรคดีขึ้นเร็วกว่าปกติ
ข้อควรระวัง สำหรับการใช้ยาพ่นจมูกทั้งหลาย ควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เพราะความเข้มข้นของยา จะทำให้เกิดการ ระคายเคืองแก่เยื่อบุจมูกซึ่งอ่อนไหวต่อสารเคมีต่างๆ จะทำให้เกิดภาวะของโรครุนแรงขึ้น หรือ ดื้อยาต้องใช้ยาเพิ่มขึ้นหรือ ถี่ขึ้น ซึ่งเราเรียกว่าอาการดังกล่าวว่า rebound effect การทาน CIRCURE จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะทั้งรักษาอาการที่มี อยู่แล้วยังป้องกันไม่ให้ภาวะของโรคดังกล่าวกลับมาเป็นอีกในระยะยาว คือ ภาวะของโรคจะเบาลง และ สามารถทำให้หายได้ในที่สุด





Top

14. ทำไมจึงแนะนำให้รับประทาน CIRCURE สำหรับคนไข้ที่มีอาการเส้นเลือดขอด และ คนไข้ที่มีอาการ ริดสีดวงทวาร ?

ทั้งนี้เพราะอาการของโรคทั้ง 2 ดังกล่าวเกิดจากสาเหตุ เนื่องจากการไหลเวียนของโลหิตผิดปกติทำให้เกิดภาวะเลือดคั่งบริเวณ ดังกล่าวการรับประทาน CIRCURE จะทำให้มีการปรับการไหลเวียนของโลหิตที่ผิดปกติให้กลับสู่ภาวะสมดุลทำให้ภาวะของ โรคทั้ง 2 ดังกล่าวดีขึ้นนอกจากนี้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายช่วยต้านอนุมูลอิสระ เท่ากับช่วยป้องกันการ เกิดโรคมะเร็ง คลายเครียด ลดความวิตกกังวล ทำให้คนไข้หลับสบายตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสดชื่นไม่มีอาการปวดศีรษะ





Top

15. ทำไมจึงแนะนำให้คนไข้ที่มีภาวะของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคพุ่มพวง (SLE) โรค AIDS หรือ แม้กระทั่งโรคหวัดมรณะ รับประทาน CIRCURE จะให้ผลทางการรักษาอย่างไร ?

สมุนไพร CIRCURE จะให้ผลในเรื่องการปรับการไหลเวียนของโลหิตที่ผิดปกติให้กลับสู่ภาวะสมดุล ซึ่งในโลหิตหรือเลือดนั้น จะเป็นตัวที่นำพาอาหาร ยา ที่ร่างกายได้รับไปยังอวัยวะต่างๆ ซึ่งเท่ากับคนไข้จะได้รับสารอาหารและยาดีขึ้นเร็วขึ้นกว่าปกติ ย่อมทำให้ภาวะของโรคดีขึ้น นอกจากนี้แล้ว CIRCURE เป็นอย่างดี ซึ่งภาวะของโรคดังกล่าวล้วนมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกาย เรามีภูมิต้านทานลดลง เมื่อทาน CIRCURE แล้ว จึงทั้งเป็นการช่วยบรรเทาภาวะของโรคดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยสรุป ไม่ใช่เป็นการรักษาให้หายขาด เพียงแต่ช่วยให้คนไข้สุขภาพดีขึ้นในระดับที่น่าพึงพอใจ