เช็คราคา ALIVE คลอโรฟิลด์ + อินนูลิน

รายละเอียดสินค้า
Allive "คลอโรฟิลล์ พลัส"

(คลอโรฟิลล์ + อินนูลิน)

ALLIVE

Sodium Copper Chlorophyllin

Plus Inulin

Dietary Supplement Product

คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์

1. ประกอบด้วยอัลฟัลฟาที่ให้สารอาหารมากมาย วิตามิน อี บี ซี และแร่ธาตุสำคัญต่อร่างกาย

2. คลอโรฟิลล์อิสระพร้อมดูดซึม

3. ใช้เทคโนโลยี Freez Drying คงคุณภาพได้ดีกว่า

4. อินนูลินช่วยรักษาสมดุลของลำไส้

5. ช่วยล้างสารพิษในระบบกระแสเลือด

6. ป้องกันตับ และไตจากการถูกทำลายโดยสารพิษ

7. เป็นสารตั้งต้นของการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่

ส่วนประกอบสำคัญ

1. อินนูลิน(Inulin) 97.8 %

2. คลอโรฟิลลิน(Chorophyllin-Water soluble) 2.2 %

รายละเอียด : ผลิตภัณฑ์

1. คลอโรฟิลล์ เป็นสารสีเขียวช่วยในขบวนการสังเคราะห์แสงของพืช ทำหน้าที่เปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นก๊าซออกซิเจนและพลังงาน ดร.ฮาน ฟิชเชอร์ ได้ทำงานวิจัยค้นคว้าความสัมพันธ์ระหว่างคลอโรฟิลล์และเม็ดเลือดแดงของมนุษย์จนได้รับรางวัลโนเบล

จากงานวิจัยพบว่าคลอโรฟิลล์มีโครงสร้างเหมือนกับเม็ดเลือดแดงต่างกันตรงแกนกลางของคลอโรฟิลล์เป็นธาตุแมกนีเซี่ยม ส่วนเม็ดเลือดแดงเป็นเหล็ก

เมื่อร่างกายของเราได้รับคลอโรฟิลล์ ร่างกายจะนำโครงสร้างของคลอโรฟิลล์มาเปลี่ยนเป็นโครงสร้างของเม็ดเลือดแดงโดยแลกเปลี่ยนอะตอมตรงกลางระหว่างเหล็กกับแมกนีเซี่ยม ดังนั้นจึงทำให้ผู้ที่ได้รับคลอโรฟิลล์มีระบบการไหลเวียนผลัดเปลี่ยนเม็ดเลือดแดงเพิ่มมากขึ้น

สูตรโครงสร้างของคลอโรฟิลล์ มีลักษณะคล้ายคลึงสูตรโครงสร้างของสารประกอบ ฮีม(Heme) ในเม็ดเลือดแดง(Red Blood Cell) ของคนเราต่างกันที่(Mg) กับ (Fe) และจากการวิจัยยืนยันได้ว่า ร่างกายของคนเราสามารถนำเอาสารคลอโรฟิลล์นี้ เป็นสารตั้งต้น(Precursor)ในการสร้างเม็ดเลือดแดงได้

โดยเฉพาะในภาวะที่ร่างกายของเราเกิดการบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง เนื่องจากขาดสารอาหาร อย่างเช่น ในภาวะโลหิตจาง

คนที่ร่างกายต้องทำงานหนัก พบว่าการทำลายของเม็ดเลือดในร่างกายจะมีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการขาดสารตั้งต้นในการสร้างเม็ดเลือดแดงจึงสำคัญมาก เพราะเม็ดเลือดแดงเป็นระบบขนส่งออกซิเจนซึ่งเป็นเชื้อเพลิงในการเผาผลาญอาหาร

คลอโรฟิลล์ พบได้มากในพืชจำพวก Alfalfa ซึ่งเป็นพืชที่มีแร่ธาตุสำคัญต่างๆมากมาย

Ifalfa ได้ถูกใช้เพื่อการรักษาทางการแพทย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยแพทย์ชาวจีนได้ใช้ใบ Alfalfa อ่อนในการรักษาอาการย่อยไม่ปกติ เช่นเดียวกันกับแพทย์ชาวอินเดียที่ใช้ใบ และดอกสำหรับการรักษากระบวนการย่อยทำงานที่ทำงานได้น้อย นอกจากนี้Alfalfa ยังใช้เพื่อการบำบัดโรคข้อต่ออักเสบ ชาวอินเดียในอเมริกาเหนือแนะนำให้ใช้Alfalfa ในการรักษาโรคดีซ่าน และช่วยสนับสนุนการจับตัวของเลือด แพทย์ที่ใช้สมุนไพรเพื่อการบำบัดในสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ใช้Alfalfa เป็นยาสำหรับอาการย่อยไม่เป็นปกติ ภาวะโลหิตจาง เบื่ออาหารและอาการการดูดซึมอาหารไม่ดี นอกจากนี้ยังแนะนำว่าAlfalfa มีส่วนกระตุ้นให้การหลั่งน้ำนมในแม่ดีขึ้นอีกด้วย

สารที่ประกอบอยู่ในAlfalfa

ด้วยระบบรากที่มีประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารมากกว่าพืชชนิดใดๆ เป็นผลให้Alfalfa เป็นพืชที่มีส่วนประกอบของสารต่างๆ มากมายมีกรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 8 ชนิด เช่น Isoleucine, Leucine, Lysine, Methionine เป็นต้น ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่ อีกทั้งAlfalfa ยังมีวิตามินอีกมากมาย รวมถึงวิตามิน A, B1, B6, B8, B12, C, D, E, K, P และ U รวมทั้งยังประกอบไปด้วยเกลือแร่อีกหลากชนิด เช่น ฟอสฟอรัส โปรแตสเซี่ยม แคลเซี่ยม สังกะสี เซเลเนียม และแมกนีเซียม เป็นต้น และยังมีเอนไซม์หลักอีกถึง 8 ชนิด คือ ไลเปส อาเมเลล โคกุเลส อีมูลซิน อินเวอร์เคส เปอร์อ๊อกซิเตส เพดติเนส โปรตีส นอกจากนี้Alfalfa ยังมีส่วนประกอบของสารอื่นๆ อีกเช่น Betacarotene, Bioflavinoids, Carotene, Chlorine Chlorphyll, Flavone, Isoflavone, Sterol และSaponin เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นสารที่ให้คุณต่อร่างกายด้วยกันทั้งนั้น

คลอโรฟิลล์ ช่วยคุณได้อย่างไร?

1. ช่วยให้เลือดสะอาด โดย(Mg)ช่วยพาแคลเซี่ยมเข้าเสริมกระดูกทำให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น

2. ช่วยให้ตับสะอาด เสริมการรักษาในผู้ป่วยตับอักเสบ

3. เสริมธาตุเหล็กให้ร่างกาย ทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย

4. ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบตัน

5. ทำให้ระดับน้ำตาลลดลง (สำหรับคนไข้โรคเบาหวาน)

6. บรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ โรคหืด ผื่นลมพิษ ค่อยๆทุเลา ลง

7. ขับกรดจากข้อต่างๆ ทำให้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวทุเลาลง

8. ขับสารพิษออกจากร่างกาย สารตกค้างของยาปฎิชีวนะ สารเคมีตกค้างในอาหาร ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดี สุขภาพแข็งแรง สดชื่นขึ้น

9. ป้องกันและระงับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดแดง

10. แก้ปัญหาคนท้องผูก ขับถ่ายดีขึ้น ริดสีดวงทวารทุเลาและหายได้

11. ดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้า โดยเฉพาะผู้ชายที่ใส่ถุงเท้าแล้วเหม็น

12. แก้ปัญหาอาการชา บวมและเส้นเลือดขอดให้ทุเลาลงได้

13. ชลอความแก่ ทำให้มีอายุยืน

14. ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้รักษาแผลอักเสบ แผลเปื่อย แผลเรื้อรัง แผลถลอก แผลไฟไหม้ เหงือกอักเสบ แผลในปาก คออักเสบ โดยใช้ผงคลอโรฟิลล์โรยบนแผล จะทำให้แผลหายเร็ว

15. บรรเทาอาการปวดศีรษะทั่วไป ปวดศีรษะไมเกรน

16. ช่วยแก้ปัญหาเรื่องโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ช่วยสมานแผล

17. แก้ปัญหาเรื่องสิว ฝ้า ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ

18. ควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก คลอเรสเตอรอลในเลือด

19. มีผลต่อสุขสุขภาพตาในคนที่เป็นต้อกระจก ทำให้การมองเห็นดีขึ้น

20. มีสารอาหารบำรุงเส้นผม ทำให้เส้นผมหงอกดำขึ้น ช่วยลดอาการผมร่าง ลดอาการเมาค้าง ผู้ป่วยโรคเอดส์ผู้ป่วยมีระดับภูมิคุ้มกันดีขึ้น

Inulin "อินนูลิน" Inulin

เป็นคาร์โบไฮเดรตสะสมในหัวและรากฟืชหลายชนิด เช่น Jerusalem artichoke รักเร่(Dahlia) และซีคโอะริ(Chicory) เป็นต้น

เป็นคาร์โบไฮเดรต ประเภทNon-digestible Oligosaccharides ประโยชน์กระตุ้นให้แบคทีเรียมีการเจริญเติบโตเร็วขึ้น และเป็นการเพิ่ม Biomass จะมีการสังเคราะห์โปรตีน เพิ่มแบคทีเรียชนิด Bifidobacteria และ Lacto - Bacilli ในลำไส้ ซึ่งเป็นการทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น เพิ่มกากอุจจาระ และเกิดการขับถ่ายลื่น ง่ายสะดวกและตรงเวลาช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ร่างกายจึงได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์

ในระยะแรกๆ Inulin ไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในการดูแล รักษาสุขภาพ แต่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยในเรื่องการทำงานของไต โดยดูอัตราการกรองผ่านโกลเมลูลัส(Glogerular Filtration Rate)เพราะ Inulin ถูกกรองผ่านได้ 100 % โดยไม่ถูกดูดกลับที่ท่อหน่วยไต(Tubules) ซึ่งถ้าเป็นน้ำตาลกลูโคสจะถูกดูดกลับ ระยะหลังมีวิธีที่สะดวกกว่าที่จะดูการทำงานของไต วิธีนี้จึงไม่ได้รับความนิยมนอกจากใช้ในงานศึกษาวิจัยเป็นหลัก

อินนูลิน ประกอบด้วยหน่วยย่อยของ Fructo-Oligosachharide ซึ่งจัดเป็นเส้นใยชนิดละลายน้ำได้ และเป็นอาหารที่ดีที่สุดของ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในลำไส้ใหญ่

แม้ว่าInulin จะเป็นคาร์โบไฮเดรต แต่มีค่าGlycermic Index ที่ต่ำมาก เนื่องจากพบว่า อินนูลีนจะไม่ถูกย่อย และดูดซีมในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก และไม่ถูกดูดกลับที่หน่วยไต จึงไม่ทำให้เกิดการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือด(กลูโคส)สูงขึ้นและยังควบคุมการปลดปล่อยของน้ำตาลฟรุคโตสเป็นไปอย่างช้าๆ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน โดยไม่ต้องพึ่ง Insulin

Insulin เป็นประโยชน์ต่อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น Bifidobacteria และ Lactobacilli แต่ลดกิจกรรมของแบคทีเรียก่อโรค เช่น Coliforms และ E.Coli

แบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อเกิดการหมักกับInsulin จะทำให้เกิดสารสำคัญต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกรดบางชนิด เช่น Lactic, Propionic ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการลดการสะสมคลอเรสเตอรอลชนิดเหลว(LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น แคลเซี่ยม และ แมกนีเซียม และสามารถทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายดีขึ้น

ปัจจุบันเริ่มในประเทศไทยหันมาศึกษา Inulin ในเรื่องอื่นๆ ได้แก่

1. Prebiotic dietary fibres ช่วยกระตุ้นการเจริญของNormal flora โดยเฉพาะBifidobacteria ทำให้ช่วยป้องกันการติดเชื้อก่อโรคที่ลำไส้ได้(ป้องกันท้องเสียจากการติดเชื้อ)

2. ส่งเสริมการดูดซึมแคลเซี่ยมและแมคนีเซี่ยม อาจช่วยในเรื่องป้องกันกระดูกพรุน

3. ลดการดูดซึมคลอเรสเตอรอลทั้งจากอาหารและที่ขับออกมาในรูปน้ำดี(เป็นคุณสมบัติของไฟเบอร์อยู่แล้ว)

4. ป้องกันมะเร็งลำไส้

5. ลดน้ำตาลในเลือดจากการไปกระตุ้นฮอร์โมนอินเครทีน(Incretin)ที่ลำไส้

น้ำหนักสุทธิ: 40.90 กรัม(40 ซอง x 1.0225 กรัม)

Net Weight 40.90 g

วิธีรับประทาน: ครั้งละ 1 ซอง(1.0225 กรัม)ละลายน้ำ 1 แก้ว(200 มล.) คนให้ละลายเข้ากัน วันละ 1 ครั้ง

อย. 10-1-00449-1-0024
ดูรายละเอียดที่ http://www.1-2success.com/?ref=top

ติดต่อ 085 0823155
083 0715229